สำหรับคนที่มองหากล้อง DSLR สำหรับเริ่มต้นสักตัว วันนี้เรามีกล้องดีๆ มานำเสนอ นั่นคือ Nikon D5200 กล้อง DSLR ระดับ Entry Level ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่สนใจในการถ่ายภาพ หรือผู้ที่กำลังริเริ่มจะมาเล่นกล้อง DSLR มาดูกันดีกว่าครับว่ากล้อง Nikon D5200 ตัวนี้มีอะไรน่าสนใจครับ
กล้อง Nikon D5200 เป็นกล้องที่ออกแบบมาได้เล็กกว่ากล้อง DSLR รุ่นใหญ่ๆครับ ตัวบอดี้นั้นมีขนาดไม่ใหญ่โต อาจจะเหมาะสำหรับสาวๆ หรือเอาไว้เป็นกล้องท่องเที่ยวก็ได้ครับ น้ำหนักตัวของกล้อง Nikon D5200 ก็ถือว่าปานกลางไม่หนักเกินไปนัก แต่ความสามารถในการทำงานนั้นเรียกว่าตอบสนองความต้องการในการถ่ายภาพได้มากทีเดียวครับ
แต่ที่บอกว่าตอบสนองการถ่ายภาพได้มากนั้น แน่นอนว่าไม่ครอบคลุมฟีเจอร์บางอย่างแบบที่กล้องรุ่นใหญ่ๆ ทำได้ เช่น ไม่รองรับระบบแฟลชไร้สาย CLS กล้องตัวนี้จึงเหมาะกับมือใหม่ที่ไม่ได้ใช้ถ่ายภาพอะไรที่เน้นเทคนิคอลังการงานสร้าง เพราะอย่างที่บอกไปคือกล้องตัวนี้ออกแบบมาสำหรับมือใหม่ เน้นใช้ง่ายครับ แต่จริงก็น่ามีมาให้นะ
Nikon D5200 มีการปรับปรุงการถ่ายวีดีโอให้ดีขึ้นโดยเฉพาะไมค์รับเสียงด้านหน้าแบบสเตอริโอ รวมไปถึงการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD ซื้อกล้องตัวนี้ตัวเดียวใช้งานแบบจิปาถะได้เลย
ระบบโหมดถ่ายภาพต่างๆที่ให้มานั้นมีให้เลือกแบบง่ายๆไปจนถึงโหมดถ่ายภาพแบบมาตรฐาน การใช้งานโหมดอัตโนมัติต่างๆ นั้นมีให้เลือกมากมายครับ หรือจะเป็นการถ่ายภาพโดยใช้เอฟเฟคท์จากกล้องได้เลยไม่ต้องพึ่งการตกแต่งจากในคอมพิวเตอร์ก็แค่หมุนแป้นง่ายๆ
นอกจากนี้ Nikon D5200 ยังสามารถตกแต่งภาพตามเอฟเฟคท์ที่กล้องให้มาได้อีกด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและช่วยให้ได้รูปสวยๆง่ายขึ้นครับ
มาดูด้านหลังกล้องกันบ้าง หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 921k จุด การใช้งานจริงพบว่าสู้แดดได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับ แถมมุมมองของหน้าจอนั้น แม้จะมองเอียงๆ ก็ยังเห็นภาพบนหน้าจออยู่
หน้าจอ LCD แบบบิดพับได้นั้น เพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพครับ หรือจะหมุนกล้องมาถ่ายตัวเองก็ทำได้ง่าย กลายเป็นว่ากล้อง DSLR ตัวนี้จะซื้อมาพกไว้ถ่ายตัวเองก็ได้เหมือนกัน เพียงแต่อาจจะลำบากในการกดชัตเตอร์สักหน่อยครับ เพราะหน้าจอไม่ใช่ทัชสกรีน
กล้อง Nikon D5200 รองรับ SD Card นะครับ ส่วนแบตเตอรี่นั้นใช้รุ่น EN-EL14 ซึ่งการใช้งานจริงนั้นพบว่าแบตเตอรี่ค่อนข้างอึดอยู่เหมือนกัน แม้ว่าจะเปิดหน้าจอ LCD ดูภาพหรือใช้ Live View บ่อย ใช้งานได้ทั้งวันหรือสองวันได้สบายๆ
พอร์ตเชื่อมต่อก็ให้มาทั้ง HDMI , USB , ไมโครโฟน , สายลั่นชัตเตอร์รวมไปถึงกล้อง Nikon D5200 ยังรองรับการทำงานระบบ GPS หรือ Wi-Fi โดยใช้อุปกรณ์เสริมครับ ส่วนอื่นที่ชอบก็คือตัวบอดี้ครับ สีสวยมากๆ ตัวที่ได้มารีวิวนี้เป็นสีแดงเมทัลลิค ส่วนใครกลัวว่าสีจะถลอกหรือเปล่า ต้องบอกว่า Nikon ทำสีออกมาดีครับ ใช้งานแบบลุยได้สบายสีไม่ลอก
ส่วนสเป็คก็ตามตารางด้านบนนะครับ แต่สรุปเด่นๆ ก็คือ
เซ็นเซอร์ 24.1 ล้านพิกเซล
ระบบโฟกัส 39 จุด และระบบโฟกัสใบหน้าอัตโนมัติ
ISO 100-6400 เร่งได้สูงสุด 25600
ระบบวัดแสงแบบใหม่ 2016-pixel RGB
หน้าจอบิดพับได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น